วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย

                                                         แหล่งท่องเที่ยวประเภทป่าเขา น้ำตก





 


       อันดับ 1 อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

          สุดยอดเหนือใครในสยามประเทศด้านความสูงด้วยดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย 2,565 เมตร จากระดับทะเลปานกลางท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อน อากาศหนาวเย็นตลอดปี แวดล้อมด้วยสภาพป่าแบบดึกดำบรรพ์ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้หลากหลายชนิด และนกสวยงามนานาพันธุ์ ด้วยเป็นป่าต้นน้ำ จึงมีน้ำตกสวยงามขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น น้ำตกแม่ยะ น้ำตกสิริภูมิ น้ำตกแม่กลาง ฯลฯ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ซึ่งกองทัพอากาศสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบอีกด้วย









อันดับ 2 อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย

          อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทยต่อจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เหนือที่ราบกว้างใหญ่บนยอดภูสูง 1,200 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง งามตาด้วยทิวสนเรียงราย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชื่นชอบภูกระดึงเพราะความหลากหลายในด้านการท่องเที่ยวเนื่องจากมีหน้ามาจุดชมทิวทัศน์มากมายหลายจุด ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักคือจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นและจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ทั้งยังมีน้ำตกขนาดกลางและขนาดเล็กที่สวยงาม เช่น น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกวังกวาง น้ำตกธารสวรรค์ ฯลฯ อีกทั้งสภาพป่าที่มีทั้งป่าสนเขา ป่าดินเขา ป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีพรรณไม้แปลก ๆ สวยงาม ในยามดอกไม้ ป่าสะพรั่งบานเปรียบเสมือนกับอุทยานบนสรวงสวรรค์











อันดับ 3 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นครนายก ปราจีนบุรี และสระบุรี

          อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2505 ได้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2548 โดยขึ้นทะเบียนร่วมกับป่า 5 ผืนใหญ่ คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติตาพระยา อุทยานแห่งชาติทับลาน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ถือว่าเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 2 ของไทย ต่อจากผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง เขาใหญ่เป็นแหล่งที่สามารถพบเห็นสัตว์ป่าน้อยใหญ่ นานาชนิด ทั้งยังมีน้ำตกใหญ่ที่สวยงาม เช่น น้ำตกเหวนรก น้ำตกเหวสุวัต น้ำตกผากล้วยไม้ และน้ำตกอื่น ๆ อีกมากมายกว่า 20 แห่ง รวมทั้งยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติอีก 13 เส้นทาง จึงเป็นขวัญใจของบรรดานักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดมาตลอดทุกยุคทุกสมัย













อันดับ 4 สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

          สถานีวิจัยแหงแรกของโครงการหลวง จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงต้องการเปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นของชาวไทยภูเขามาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาวที่สามารถสร้างรายได้ วันนี้ดอยอ่างขางได้เปลี่ยนสภาพจากภูเขาซึ่งถูกตัดไม้ทำลายป่ามาเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจให้เที่ยวชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ดอกเมืองหนาวกว่า 20 ชนิด พันธุ์ไม้ผลกว่า 12 ชนิด และแปลงผักเมืองหนาวอีกกว่า 60 ชนิด รวมทั้งหมู่บ้านชาวไทยภูเขาหลายเผ่า คือ จีนฮ่อ ไทยใหญ่ มูเซอดำ และปะหล่อง ทิวทัศน์ชายแดนไทย-พม่า อีกทั้งยังเป็นแหล่งดูนกสำคัญที่มีนกน่าสนใจหลายชนิด












อันดับ 5 อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน

          เป็นผืนป่าต้นน้ำสำธารที่โดดเด่นด้วยป่าและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และทิวเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน มีจุดชมทิวทัศน์ที่ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย คือ จุดชมวิวห้วย น้ำดัง อันเป็นสถานที่ซึ่งสามารถชมทะเลหมอกยามเช้าได้อย่างชัดเจนงดงาม ท่ามกลางแสงสีทองของอรุณรุ่ง แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวนับพันมาพักแรมเพื่อรอชม นอกจากนี้ ยังมียอดดอยที่มีธรรมชาติงดงามอีกหลายแห่ง เช่น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น รวมทั้งโป่งเดือดซึ่งเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติทางอุทยานฯ ได้จัดสร้างบ้านพักพร้อมบ่อสำหรับอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนครบวงจรพร้อมบริการ





แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล เกาะ และหมู่เกาะ










          อันดับ 1 หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา








คว้าความเป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวประเภทนี้ไปด้วยหาดทรายขาวละเอียดบริสุทธิ์ราวกับแป้งบนชายหาดของเกาะน้อยใหญ่ที่เรียงรายจากแนวเหนือไปใต้รวม 9 เกาะ อันเป็นที่มาของนาม "สิมิลัน" ซึ่งมีความหมายในภาษายาวีแปลว่า "เก้า" รวมทั้งผืนน้ำที่เป็นสีเขียวครามใส ใต้ผืนน้ำยังถือว่าเป็นสุดยอดของแหล่งดำน้ำ ทั้งดำน้ำตื้นแบบสนอร์เกิล และดำน้ำลึกแบบสกูบา เพราะอุดมด้วยปะการังแข็ง ปะการังอ่อน กัลปังหา และฝูงปลาน้อยใหญ่นานาชนิด บนเกาะแปดยังมีหินเรือใบ ประติมากรรมธรรมชาติในขณะที่เกาะสี่ยังคงสภาพป่าดิบอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของนกชาปีไหน ค้างคาวแม่ไก่ และปู่ไก่ ที่มีเสียงร้องคล้ายลูกไก่ และสัตว์ป่าอีกหลายชนิด















  อันดับ 2 หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่

          หมู่เกาะพีพีประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละแห่งล้วนแล้วแต่มีทัศนียภาพน่าตื่นตาด้วยเทือกผาเขาหินปูนสูงใหญ่กับหาดทรายขาวสวย น้ำทะเลเขียวใส แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเลื่องชื่อในฐานะดินแดนแห่งบุปผาใต้สมุทรจากกิจกรรมท่องโลกใต้ทะเล ดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้ทะเลหลากสีสันสวยงาม และสรรพสัตว์น้อยใหญ่เป็นที่ดึงดูดนักดำน้ำจากทั่วโลกให้แวะเวียนมาเยือน







  อันดับ 3 เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี

          แหล่งมะพร้าวพันธุ์ดีที่สุดของไทยในอดีต ทว่าในวันนี้นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักเกาะสมุยในฐานะ "สวรรค์กลางทะเลอ่าวไทย" ด้วยหาดทรายขาวสวยขนานไปกับท้องทะเลครามและทิวมะพร้าวเรียงรายงดงามบนชายหาดรอบเกาะ แต่ละหาดมีบรรยากาศแตกต่างกันไปให้เลือกเที่ยวบนเกาะพรั่งพร้อมไปด้วยที่พักหลากสไตล์ ร้านอาหารหลายรสชาติบริการนำเที่ยว สถานบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่สร้างความหลงใหลให้กับผู้มาเยือน

















อันดับ 4 เกาะช้าง จังหวัดตราด

          เกาะใหญ่อันดับสองของประเทศไทยรองจากเกาะภูเก็ต ทะเลแถบนี้คือสมรภูมิประวัติศาสตร์ยุทธนาวีทางทะเลอันลือลั่นระหว่างกองทัพเรือไทยกับกองเรือฝรั่งเศสผู้รุกราน ขณะเดียวกันก็เป็นเกาะสวรรค์แห่งทะเลตะวันออก ด้วยสภาพธรรมชาติป่าดิบเขาสมบูรณ์บนเกาะอันเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ทำให้มีน้ำตกสวยงามมากมายหลายแห่ง หาดทรายทอดตัวเป็นแนวยาวต่อเนื่องกัน อีกทั้งมีแนวปะการังสวยงามที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะ พรั่งพร้อมด้วยรีสอร์ตหลากสไตล์ ร้านอาหาร สถานบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน











อันดับ 5 เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง

          เกาะเสม็ด งดงามจนหลายต่อหลายคนคิดว่าเป็นเกาะแก้วพิสดารในวรรณคดี ด้วยหาดทรายที่ขาวสะอาดเนื้อละเอียดนวลเนียนเหมือนกับเกาะที่อยู่กลางท้องทะเลลึก ทั้งที่อยู่ห่างจากชายฝั่งเพียง 6 กิโลเมตร เท่านั้น ผสมผสานกับทิวทัศน์ธรรมชาติรอบเกาะ ชายหาดกับเวิ้งอ่าวที่แหว่งเว้า และพืชพรรณนานาชนิดประดับประดาหลายแห่ง แหล่งปะการังสวยงามใกล้ชายฝั่ง เป็นอีกเกาะหนึ่งที่ครบถ้วนด้วยที่พัก ภัตตาคาร สถานบันเทิง และกิจกรรมท่องเที่ยวทางทะเล ในระยะทางที่ไม่ไกลจนเกินไป





                                                           สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าแปลกตาในเมืองไทย


                      


                                         

                                                            ซาฮาร่า

   ผืนทะเลทรายกว้างใหญ่ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า หากเห็นเพียงภาพถ่ายอาจนึกว่ากำลังยืนท้าทายแสงอาทิตย์ อยู่ที่ทะเลทรายซาฮาร่า ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา แต่เปล่าเลย! สถานที่นี้คือหาดหงส์ ตั้งอยู่ในแก่งสามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจุดท่องเที่ยวที่ผู้มาเยือนมักจะมาสัมผัสความงดงามกันอยู่เสมอ มีลักษณะเป็นผืนทรายกว้างใหญ่ ราวกับทะเลทรายในต่างประเทศ ซึ่งเกิดจากการพัดพาของน้ำและนำตะกอนทรายมาทับถมกัน ช่วงไฮไลต์ที่แนะนำให้มาชม คือเวลาเย็นโพล้เพล้จังหวะเดียวกับพระอาทิตย์กำลังตกดิน จะได้ยลความสวยของแสงทองจากดวงอาทิตย์ ที่ส่องลงมากระทบทรายสีขาวระยิบระยับสุดประทับใจ



                                                   ซากุระ







ซากุระ (นางพญาเสือโคร่ง) เป็นไม้ที่ขึ้นในพื้นที่สูงตามธรมชาติ มีมากทางตอนใต้ของประเทศจีน ญี่ปุ่น  และไต้หวัน  ส่วนในประเทศไทย พบขึ้นตามภูเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล  1,000-2,000 เมตร  เช่น  บนดอยอินทนนท์   ดอยหลวงเชียงดาว อช.ห้วยน้ำดัง เป็นต้น ลักษณะของนางพญาเสือโคร่ง เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบสูงประมาณ 10-15 เมตร ดอก สีขาว  ชมพู ออกเป็นช่อกระจุกใกล้ปลายกิ่ง กลีบดอกมี 5 กลีบ เมื่อบานขนาดโตเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 เซนติเมตร ออกดอกระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ โดยจะทิ้งใบก่อนออกดอก จึงทำให้มองเห็นแต่ดอกสีชมพูทั้งต้น  เมื่อถึงเวลาออกดอกก็จะออกพร้อมๆกันจึงจะเห็นเป็นสีชมพูสะพรั่งไปทั้งดอย

สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน  และหมู่บ้านชาวม้งบ้านขุนช่างเคี่ยน เป็นแหล่งที่มีต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่มาก ทั้งตามข้างทางถึงในหมู่บ้าน และยังเป็นแหล่งชม ดอกซากุระดอย ที่อยู่ใกล้เมืองเชียงใหม่มากที่สุด และเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้นเพราะดงดอกซากุระดอย ที่ขุนช่างเคี่ยนมีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ

ขุนช่างเคี่ยน อยู่ทางทิศเหนือของยอดดอยปุย ห่างจากพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ประมาณ 8 กิโลเมตร สามารถเดินทางมาตามเส้นทางสายเชียงใหม่-พระธาตุดอยสุเทพ ผ่านพระตำหนักฯ ไปถึงยอดดอยปุยประมาณ 4 กิโลเมตร และเป็นถนนดินที่มีผิวทางค่อนข้างชำรุดจากยอดดอยปุยไปทางหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยนอีกประมาณ 4 กิโลเมตร มีจุดกางเต็นท์ที่หน่วยยอดดอยปุย อยู่ก่อนถึงสถานีเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน 2 กม. หรือไปพักที่สถานีเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น